เมืองที่เร็วที่สุดในโลก : “อิเทน” เมืองเล็กๆ ที่สร้างนักวิ่งแชมป์โลกมากว่า 30 ปี

bclub99.com : ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือน… อิเทน บ้านของแชมเปี้ยน! นี่คือป้ายข้อความที่ติดอยู่บริเวณซุ้มประตูของ “อิเทน” เมืองเล็กๆ ในประเทศเคนย่าที่สร้างนักวิ่งระยะไกลระดับแชมป์โลกมามากมาย

หลายคนอาจจะคิดว่าคนเชื้อสายแอฟริกันนั้นเกิดมาเพื่อเป็นนักวิ่งโดยธรรมชาติ ทว่าจะกล่าวอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกเสมอไป เพราะนี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นในดินแดนแห่งแชมเปี้ยน และมันคือเหตุผลที่พวกเขามีนักวิ่งสถิติโลกเต็มไปทั่วทุกตรอกถนน ไม่ใช่ยีนส์ ไม่ใช่พันธุกรรม และไม่ใช่สีผิวเท่านั้นที่เป็นต้นเหตุ… นี่คือเรื่องราวของ อิเทน

วิ่ง = ชีวิต

อิเทน ไม่ใช่เมืองใหญ่และมีความเจริญอะไรมากมายนัก เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดหนึ่งของประเทศเคนย่า (มี 47 จังหวัด) ที่มีชื่อว่า Elgeyo-Marakwet ด้วยความที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากความเจริญและเมืองหลวงของประเทศอย่าง ไนโรบี ทำให้ อิเทน มีปัญหาในด้านการคมนาคมเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาไม่มีรถประจำทางที่วิ่งรับผู้คนในเมืองไปส่งยังที่ต่างๆ และไม่มีแม้กระทั่งรถบัสสำหรับส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนในตอนเช้า … อ่านมาถึงตรงนี้คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป? สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือทัศนคติ ต่อให้สิ่งรอบตัวจะแย่และลำบากแค่ไหน แต่ถ้าเราสามารถมองหาแง่มุมดีๆ ได้ชีวิตก็จะง่ายขึ้นเยอะ และที่ อิเทน เต็มไปด้วยเด็กหนุ่มผู้พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส พวกเขาไม่มีรถมารับไปกลับ พวกเขาก็ต้องวิ่งไปโรงเรียนทุกวัน กว่าจะเรียนจนจบมัธยมก็ตีเสียว่าประมาณ 10 ปี  ตลอด 10 ปีนั้นพวกเขาวิ่งไปกลับอยู่อย่างนั้้นแทบทุกวัน ปัจจุบันแม้ความเจริญจะเข้ามาถึงบ้าง แต่สิ่งที่รายการเกี่ยวกับสารคดีการวิ่งของคนที่นี่นำเสนออยู่ตลอดคือภาพของเด็กชายและเด็กหญิงในชุดนักเรียนที่วิ่งไปหัวเราะไประหว่างทางเดินจากบ้านไปยังโรงเรียนด้วยเท้าเปล่า ทุกก้าวๆ ของเด็กๆ พวกนี้จะคล้อยหลังด้วยฝุ่นสีแดงจากดินลูกรัง และมันคือภาพที่สะท้อนวิถีชีวิตของคนที่นี่ได้เป็นอย่างดีสิ่งนี้ช่วยคุณได้จริงๆ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับ อีเลียด คิปโชเก นักวิ่งชาวเคนยาดีกรีเหรียญทอง โอลิมปิก และนักวิ่งที่จบเส้นทางมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ด้วยเวลาที่เร็วที่สุดในโลกภายในระยะเวลาแค่ 2 ชั่วโมง 1 นาที 39 วินาทีเองก็มีวัยเด็กเช่นนี้เหมือนกัน เขาวิ่งจากบ้านไปโรงเรียนไปกลับวันละ 4 กิโลเมตร ตั้งแต่อายุ 6-7 ขวบ การทำแบบนั้นทุกวันไม่ต่างกับการซ้อมวิ่งโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการจะบอกว่าคนแอฟริกันหรือเคนย่ามี ดีเอ็นเอ, ยีนส์ และพันธุกรรม ที่ได้เปรียบคนอื่นก็คงไม่ถูกนัก แต่มันคือวิถีชีวิตมากกว่าที่ทำให้พวกเขารวดเร็วและมีปอดที่มีพลังมหาศาลได้ขนาดนี้

ก็อดฟาเธอร์แห่งการสร้างนักวิ่ง

เมื่อมีพลังที่สามารถทำให้ทุกคนในเมืองเป็นนักวิ่งระยะไกลได้ ว่ากันว่าในประชากรทั้งหมด 4,000 คนนั้น มีถึง 500 คนที่สามารถเป็นนักวิ่งมาราธอนได้ … จึงทำให้หลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียน เซนต์ แพทริก ที่ก่อตั้งในปี 1961 โดยกลุ่มผู้เผยแพร่ศาสนาชาวไอริช ได้เล็งเห็นไปถึงการต่อยอดในความสามารถพิเศษและความพยายามโดยธรรมชาติของเด็กๆ ใน อิเทน เหล่านี้ โดยชายที่เป็นคนเริ่มให้เด็กๆ วิ่งอย่าง “ตั้งใจ” และมีจุดมุ่งหมายเป็นครั้งแรกมีชื่อว่า บาทหลวง คอล์ม โอคอนเนลล์ ที่เข้ามารับหน้าที่พร้อมกับตำแหน่งครูวิชาภูมิศาสตร์ชาวไอริช ที่ย้ายเข้ามาตอนปี 1970 ซึ่ง ณ เวลานั้น คอล์ม มีสัญญามาสอนในระยะสั้นเพียง 3 เดือนเท่านั้น … แต่เมื่อได้ทำงานเกี่ยวกับการวิ่ง ก็ได้ใช้ชีวิตใน เคนย่า จนถึงทุกวันนี้

อ่านเพิ่มเติม

“ผมยังจำได้ดีตอนที่เราคว้าเหรียญทองแรกได้ มันเซอร์ไพรส์มากเลย เราไม่ได้เตรียมเทปเพลงชาติ เคนย่า มาเพื่อเปิดในงานนี้ด้วยซ้ำ เด็กๆ ของผมต้องร้องเพลงชาติเองในการรับเหรียญทองครั้งนั้น หลังจากที่เด็กขิงผมได้แชมป์กรีฑาชิงแชมป์โลกระดับเยาวชนในปี 1986 หลายคนก็เริ่มสนใจเรา โลกภายนอกอยากจะรู้จักนักวิ่งเคนย่าว่าผ่านการฝึกอะไรมาบ้าง”  เด็กของ คอล์ม กลายมาเป็นแชมป์โลกได้จริงๆ หลังจากผ่านการลองผิดลองถูกกว่า 10 ปี เขาก็สร้างนักวิ่งระดับเหรียญทองโอลิมปิกได้สำเร็จอาทิ ลอร์นาห์ คิปลากัต แชมป์โลกนักวิ่งครอสคันทรี่ และ เดวิด รูดิชา นักวิ่งระยะกลางเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกและสถิติโลกระยะ 800 เมตร การผลิตแชมป์โลกและกลายเป็นบุคคลทรงอิทธิพลของ คอล์ม ทำให้เขาถูกเรียกว่า “ก็อดฟาเธอร์แห่งวงการวิ่ง” เลยทีเดียว และเหล่านักวิ่งของเขานี่เองที่นำชื่อเสียงกลับมาสู่ อิเทน จนกลายเป็นเมืองของแชมเปี้ยนในเวลานี้

อ่านเพิ่มเติม



ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *