bclub99.com : มวยเม็กซิกัน คือราชาแห่งความเร็วและความดุดัน พวกเขามีชื่อเรียกว่านักชกสไตล์ “ค้นหาและทำลาย” (Seek and Destroy) นั่นคือสไตล์การชกซึ่งแตกต่างกับมวยอังกฤษหรือมวยอเมริกันที่เน้นเรื่องเทคนิค นักชกเม็กซิกันคือนักสู้ พวกเขารุกเข้าไปหาคู่ต่อสู้ และใจกล้าเด็ดเดี่ยวที่สุด พวกเขาพร้อมโดนชก เพื่อแลกกับการได้ชกกลับ นั่นคือลายเซ็นที่แฟนมวยทั่วโลกยอมรับหัวใจนักชกเม็กซิกันโดยแท้จริง อย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันมี 1 นักชกที่แหกขนบนั้น เขาคือ คาเนโล่ อัลวาเรซ นักชกที่มีสไตล์ที่แตกต่างจากมวยเม็กซิกันทั่วไป แม้ว่าจะดูไร้จุดขาย ทว่าสไตล์ที่แตกต่างก็ทำให้เขาเป็นนักมวยค่าตัวมากที่สุดในโลก และขึ้นชกเมื่อไหร่ยอดขาย เพย์-เพอร์-วิว ถล่มทลายเมื่อนั้น ซาอูล “คาเนโล่” อัลวาเรซ เกิดในเมืองกัวดาลาฮารา ประเทศเม็กซิโก และครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวนักมวยอย่างแท้จริง ซาอูล เป็นลูกชายคนที่ 7 และคนสุดท้องของครอบครัวจากพี่น้องทั้งหมด 8 คน แถมพี่ชายของเขาทุกคนเป็นนักมวยทั้งสิ้น โดยเฉพาะพี่ชายที่ชื่อว่า ริโกแบร์โต้ อัลวาเรซ ก็เคยเป็นแชมป์โลกเฉพาะกาลรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวตของ WBA มาแล้ว มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรนักที่ลูกชายบ้านนี้จะเดินสายมวยกันทุกคน เพราะมันคือสายเลือดชาวเม็กซิกันโดยตรง ในอดีต ฮูลิโอ เซซาร์ ชาเวซ นักชกแชมป์โลกเคยให้คำจำกัดความของชายหนุ่มเม็กซิกันว่าเกิดมาเพื่อชกมวยเลยทีเดียว “ไม่ว่าเพราะโชคดีหรือโชคร้าย คนเม็กซิโกเป็นพวกเลือดร้อน และนักชกเม็กซิโกทุกคน ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ยากจน และเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของคุณ คุณยอมตายบนสังเวียน เพื่อเอาเงินไปจุนเจือครอบครัว” ฮูลิโอ เซซาร์ ชาเวซ กล่าว
อย่างไรก็ตามแม้จุดเริ่มต้นของ ซาอูล อัลวาเรซ จะคล้ายๆ อย่างที่ ชาเวซ บอก ทว่าเขามีความแตกต่างทางพันธุกรรมกับชาวเม็กซิกันคนอื่นๆ เขาไม่ได้ผมดำ และมีผิวสีแทนแบบละตินแต่อย่างใด เพราะตัวของเขาขาวเผือกและมีผมสีแดง หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันว่า “จิงเจอร์เฮด” (หัวขิง) ซึ่งเรื่องนี้ ซาอูล เผยภายหลังว่าเขาได้ผมสีแดงนี้มาจากกรรมพันธุ์ของแม่ ซึ่งในประเทศเม็กซิโกนั้น หากใครมีผมสีแดงมักจะถูกเชื่อมโยงกับทหารไอริชกองพัน “เซนต์ส แพทริคส์” ที่เข้ามาช่วยเม็กซิโกรบในสงครามกับสหรัฐอเมริกาเมื่อครั้งอดีต และทางตัวของ ซาอูล เองก็ยังไม่ชัวร์ว่าผมสีแดงของเขามีจุดกำเนิดจากบรรพบุรุษฝ่ายไหน “ไม่แน่เหมือนกันผมอาจจะมีทวดเป็นชาวไอริชจากที่ไหนสักแห่งเมื่อครั้งอดีตก็เป็นได้” ซาอูล กล่าว แต่ที่แน่ๆ คือสไตล์ของเขาไม่ใช่ประเภทเดินไปตายเอาดาบหน้าเหมือนกับที่ ชาเวซ บอกแน่นอน ต้นกำเนิดนั้นจะเกี่ยวหรือไม่ ไม่มีใครทราบได้ แต่ความจริงคือ ซาอูล อัลวาเรซ นั้นชกในสไตล์ที่ไม่ใช่มวยเม็กซิกันมาตั้งแต่อายุ 15 ปี แล้ว เขาไม่จ้องแต่จะบุกเหมือนกับโคตรมวยเม็กซิกันยุคก่อนๆ อย่าง ชาเวซ ทว่ากลับเป็นมวยสมองที่ต่อยอย่างชาญฉลาด เขาชอบที่จะรอจังหวะอย่างใจเย็นและสวนด้วยหมัดที่เรียกว่า “เคาน์เตอร์พันช์” (ดักชกจังหวะสอง) ซึ่งมวยสไตล์นี้มีความเป็นอเมริกันมากกว่าเม็กซิกันเยอะเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามกลิ่นอายของความเป็นเม็กซิกันยังพอมีอยู่บ้าง เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่เคยกลัวใคร แม้จะแตกต่างด้วยสไตล์แต่หัวใจเขาสู้ไม่ถอยกันไม่ปล่อยสไตล์เม็กซิกัน คาเนโล่ มีคติประจำใจอยู่ว่า “กูสู้เพื่อเข็มขัดแชมป์” สไตล์ของ คาเนโล่ นั้นก็เหมือนกับที่เขาได้กล่าวไปในข้างต้น มันคือคือวิวัฒนาการที่ไม่ได้หยุดไว้แค่คำจำกัดความ นักชกเม็กซิกันหลายคนมีอคติเกี่ยวกับการชกในสไตล์ที่เน้นแท็คติกจ๋าแบบอเมริกัน ซึ่งหากใครสักคนยอมชกสไตล์นั้นจะดูเสื่อมเสียความภาคภูมิใจในความเป็นเม็กซิกันไป ความคิดแบบนั้นจะว่าไปก็ไม่ผิดนัก เพราะสไตล์เม็กซิกันที่พวกเขาภูมิใจ เป็นสไตล์ที่ทำให้ประเทศเม็กซิโกนั้นมีแชมป์โลกในวงการมวยสากลมาแล้วมากกว่า 250 คน
เหตุที่แปลกคือมันเป็นไฟต์ที่กลับตาลปัตร เพราะมวยเม็กซิกันอย่าง คาเนโล่ กลับเป็นฝ่ายที่ถนัดเรื่องเทคนิคและแท็คติก ขณะที่มวย “โซเวียตแตกทัพ” อย่าง โกลอฟกิ้น กลับเป็นฝ่ายบอกว่าตัวเองคือมวยเม็กซิกัน ซึ่งใช้สไตล์เม็กซิกันไล่น็อกคู่แข่งมามากมาย “นี่คือสไตล์ของผม ผมชกเหมือนมวยเม็กซิกันเพราะนี่มันคือการต่อสู้จริงๆ ไม่ใช่แค่เกม” โกลอฟกิ้น กล่าวหลังเอาชนะ แม็กซ์ เคลเลอร์แมน จากเยอรมันในปี 2014 มันไม่ใช่เรื่องโม้และอวดเบ่งแต่อย่างใด เพราะ โกลอฟกิ้น มีโค้ชชื่อว่า อเบล ซานเชซ แน่นอนเขาเป็นคนเม็กซิกัน ซานเชซ พบกับ โกลอฟกิน ครั้งแรกในปี 2010 เขาเอาเทปของ ฮูลิโอ เซซาร์ ชาเวซ มาเปิดให้กับ โกลอฟกิ้น ดูแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า และบอกว่าหากเขาสามารถชกแบบนี้ได้ในอีกไม่เกิน 2-3 ปี เขาจะกลายเป็นแชมป์โลกรุ่นมิดเดิ้ลเวตได้ “ผมสัญญากับเขาว่าในอีก 3 ปี ผมจะทำให้เขากลายเป็นแชมป์ที่ดีที่สุดในโลก จะทำให้เขาชนะจนไม่มีใครอยากจะต่อสู้กับเขา และผมจะทำให้เขาไร้เทียมทานเหมือนกับ ฮูลิโอ เซซาร์ ชาเวซ เลย” ซานเชซ กล่าวถึงนักมวยในคาถาของเขา และเมื่อกาลเวลาผ่านไปมันก็เป็นเช่นนั้น โกลอฟกิ้น ก้าวมาเป็นแชมป์โลกด้วยสไตล์เดินหน้าชกแบบเม็กซิกัน พร้อมกับสถิติน็อกเอาต์บานตะไท ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเขากลายเป็นนักชกคาซัคสถานที่เป็นขวัญใจของแฟนมวยชาวเม็กซิโก ครั้งหนึ่งนักร้องเพลงพื้นบ้านของ เม็กซิโก ที่มีชื่อว่า ชาลิโน่ ซานเชซ ถึงกับเคยใส่เสื้อยืดที่สกรีนใบหน้าของ โกลอฟกิ้น และมีข้อความว่า “Mexicans for Golovkin” มาแล้ว กระแสก่อนชกนั้นแปลกตรงที่ชาวเม็กซิโกหลายคนเลือกที่จะหันหน้าไปเชียร์นักชกจาก คาซัคสถาน มากกว่านักชกจากบ้านเกิดของพวกเขาเอง ส่วนเหตุผลนั้นง่ายนิดเดียวเพราะ โกลอฟกิ้น ชกด้วยความดุดันและเดินหน้าสู้ไม่ถอย ต่างกับ คาเนโล่ ที่ชาวเม็กซิโกมองว่าเขาทิ้งรากเหง้าของบรรพบุรุษและเลือกชกในแบบนักมวยอเมริกันดินแดนคู่ปรับ บ้างก็บอกว่าเขาต่อยเหมือนกับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ไม่มีผิด สำหรับชาวเม็กซิกันนั้น ฟลอยด์ เปรียบเหมือนนักชกต้องห้าม พวกเขามองว่า ฟลอยด์ เป็นมวยที่ตั้งรับและปอดแหก และหลายครั้งได้ประโยชน์จากการตัดสิน ซึ่งนักมวยขวัญใจชาวเม็กซิกันหลายคนก็พลาดท่าให้กับ ฟลอยด์ เพราะสไตล์ตั้งรับนี้ ดังนั้นการที่ คาเนโล่ เลือกใช้สไตล์ของคู่แค้นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้กระแสตีกลับพอสมควรเลยทีเดียว