bclub99.com : ในบางช่วงบางจังหวะของเกมที่เพิ่งจบลงไป คงจะมีหลายคนประทับใจประทับใจในความกล้าหาญ ประทับใจในเลือดนักสู้ ประทับใจในความมุ่งมั่นพยายามที่แสดงออกมา ประทับใจในทีมชาติไทยชุดนี้ ที่สำคัญ.. พวกเขาทุกคนมีดีอย่างเหลือเฟือที่จะทำให้เราได้ประทับใจอย่างนั้นขอบคุณ อากิระ นิชิโนะ ที่นำเอาฟุตบอลมาตรฐานสูงเข้ามาสู่ทีมชาติไทย ละเอียดตั้งแต่การคัดสรรเลือกตัว การส่งผู้เล่นลงสนาม วิธีการเล่น การหย่อนตัวสำรองระหว่างเกม.. ทุกอย่างดูดีมากจริงๆเพียงแค่ 4 เกมในมือของนิชิโนะ เราเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละเกมทั้งที่ไม่เคยมีเงื่อนไขครบร้อยสองเกมแรกกับเวียดนามและอินโดนีเซีย ธีรศิลป์ แดงดา ยังเจ็บ สองเกมล่าสุดกับคองโกและยูเออี ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เจ็บ กระนั้นสิ่งที่ทีมชาติไทยของนิชิโนะทำให้เราได้เห็น ได้รู้สึก ได้สัมผัสก็คือฟุตบอลเล่นกันเป็นทีมโดยแท้ ถ้าทุกคนช่วยกัน มีสปิริต มีทีมเวิร์ค มีความเข้าใจร่วมกัน หัวใจเป็นหนึ่งเดียวกันก็สามารถเป็นทีมที่ดีได้ นิชิโนะทำให้เราและนักเตะรู้สึกว่าไม่ว่าใครก็ตามที่เขาเรียกมาติดทีม ได้ประทับธงไตรรงค์บนหน้าอกต่างก็มีคุณค่าทั้งนั้น ทุกคนมีดีอยู่ในตัวทั้งนั้น ก็ลองดูเกมนี้สิครับ มีใครไม่คู่ควรกับการรับใช้ชาติบ้าง มีใครเหยาะแหยะบ้าง มีใครเล่นแบบขอไปทีบ้าง..ลงไปเป็นตัวแทนของชาติแล้วไม่มีใครเป็นตัวถ่วงของใคร ทุกคนพร้อมจะวิ่งช่วยกันและคอยแก้ไขสถานการณ์ให้กันเมื่อมีข้อผิดพลาด
ความตื่นตัว การเข้าหาบอล การเคลื่อนที่หาช่องว่าง ความคึกคัก ความกระหายที่จะเอาชนะ การเปิดจุดอ่อนและปิดจุดแข็งของคู่ต่อสู้แทบจะไร้ที่ติ..ในเกมพิชิตยูเออีเมื่อค่ำที่ผ่านมา ผมไม่รู้จะยกแมนออฟเดอะแมตช์ให้ใครดีธีรศิลป์กับประตูขึ้นนำและคุณภาพในการเล่นบอลแดนหน้า เอกนิษฐ์ ปัญญา กับสเต็ปโยกกระชากสุดสะเด่าและโคตรมัน มานูเอล ทอม เบียร์ห กับการยืนตำแหน่งดักสกัดบอลได้หมดทั้งลูกเรียดลูกโด่งสารัช อยู่เย็น กับความนิ่งและบทบาทห้องเครื่องคุมเกมแดนกลางอยู่หมัดพิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล กับการเป็นผึ้งงานช่วยแบ่งเบาภาระเจ้าตังค์ได้ชะงัดการอ่านบอลของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ความแน่นอนของ นิติพงษ์ เสลานนท์ ทางบอลของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ศักยภาพของ ธีราทร บุญมาทัน ความคล่องตัวของ สุภโชค สารชาติ ลูกตะลุยของ ศศลักษณ์ ไหประโคน ช็อตที่ “อุ้ม” ดึงบอลหลอกนักเตะยูเออีจนหัวทิ่มที่ริมเส้นคือช็อตเข้าตาสุดๆ เป็นจังหวะได้ใจประจำเกม11 ตัวจริงกับผลงานในระดับ 7.5 คะแนนเต็ม 10 เป็นอย่างน้อยทุกคน ผมให้เอกนิษฐ์ที่โดดเด่นเกินตัวในเกมใหญ่ขนาดนี้ 9.5 คะแนนไปเลยสิ่งที่ทีมชาติไทยเด่นมากในเกมนี้คือสมาธิและความรู้ตัว ทุกคนเล่นด้วยสติและเลือกช็อตเล่นได้ละเอียด จุดนี้มองเห็นตั้งแต่เกมกับคองโกแล้ว คือเราเลือกจังหวะในการเล่นได้ดีจริงๆเข้าบอล-ไม่เข้าบอล ดึงบอล-พาบอล บังบอล-พลิกเล่น แน่นอนครับมันมีจังหวะผิดพลาดบ้างอย่างการเข้าพรวดของศศลักษณ์ในครึ่งแรกหรือธีราทรในครึ่งหลัง แต่ในภาพโดยรวมถือว่าน่าพอใจ
การถูกลงโทษจากความผิดพลาดแต่สุดท้ายทีมเป็นฝ่ายชนะยิ่งทำให้เราได้ประโยชน์จากการพลาดนั้นเป็นสองเท่า ศศลักษณ์ได้บทเรียนล้ำค่าในขณะที่เรายังเป็นฝ่ายมีชัย กำไรล้วนๆ ครับสามคะแนนเกมนี้ทำให้หัวใจสดชื่นพองโตขึ้นมาก ไอ้ความเสียดายที่ยิงชนเสากับโหม่งชนคานอย่างละครั้งนั่นโยนทิ้งไปได้เลยในเกมของนิชิโนะ เราอ่านเกมอย่างฉลาด คาดการณ์การให้บอลของคู่แข่งแล้วสปีดเข้าแย่ง เฉพาะการชิงจังหวะตัดบอลที่นักเตะยูเออีส่งให้กันก็หลายครั้ง มันทำให้เราเปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุกได้ สมาธิอันยอดเยี่ยมยังเป็นที่มาของการที่ โอมาร์ อับดุลราห์มาน ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 72 อีกด้วยคิลเลอร์พาสของโอมาร์ไม่ได้คายพิษสงเลยแม้แต่ครั้งเดียวในเกมนี้ เขามีโอกาสได้ผ่านบอลแต่ไม่เคยผ่านการป้องกันของคู่เซนเตอร์ เบียร์ห-ตั้ม เลยสู้กับยูเออี ถ้าตัดบอลปลิดวิญญาณของโอมาร์ได้ก็หมายถึงลดโอกาสเสียประตูลงไปกว่าครึ่งขณะที่เกมรับไม่ปล่อยให้ยูเออียืนโล่งเลย ทุกคนมีคู่ประกบหมดโดยเฉพาะหน้าเขตโทษ ตามชิดให้เล่นยากและอ่านจังหวะเข้าดักบอลเน้นๆเรายังเล่นกับพื้นที่ได้ดี เล่นได้เต็มพื้นที่ริมเส้น ธีราทรกับเอกนิษฐ์ทางซ้าย นิติพงษ์กับศศลักษณ์ทาง การพักบอลและออกบอลของธีรศิลป์ยังสร้างโอกาสให้ทีมเสมอ กองหลังยูเออีพยายามเข้าชิดเร็ว มุ้ยก็ยังไม่เสียบอล มีตัวช่วยในพื้นที่ใกล้ๆ ตลอดเวลา การขยับตัวคล่องแคล่วทำให้เพื่อนมีตัวเลือกมากกว่า 1 ทางเลือกในทุกช็อต มุ้ยอาจถูกชิดต้องหันหลังให้ประตูแต่เขามีตัวรับคืนบอลชั้นดีอย่าง สุภโชค สารัช และ พิธิวัตต์ ให้เลือก แบ่งเบาภาระได้มาก ประตูที่สองของเราก็มาจากบอลลักษณะนี้ หลังพิงคู่แข่ง-แปะคืน-ป้ายออกข้าง-ครอสบอล แล้วก็ยิงตุงตาข่ายบอลที่ออกจากเท้ามีความหมายทั้งสิ้น เน้นทุกการตัดสินใจ ไม่มีเตะทิ้งโฉ่งฉ่างเลย นิ่ง กล้าเล่น กล้าเก็บบอล กล้าให้บอล กล้ายัดบอลไปข้างหน้า บอลเท้าสู่เท้าแม่น บอลให้พื้นที่ว่างก็ได้เปรียบผมคิดว่าฟุตบอลของนิชิโนะคือความมั่นใจ มั่นใจในตัวเอง มั่นใจในตัวเพื่อน บอลทิ่มตรงๆ ให้เพื่อนข้างหน้าบ่อยมาก ที่สำคัญคือยัดบอลไปข้างหน้าแล้วขยับตามทันที วิ่งตามไปเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับเพื่อนทันทีกล้าเล่น กล้าให้และขยันเคลื่อนที่ บอลเคลื่อน ตัวเคลื่อน เกมก็เคลื่อน ง่ายๆ แค่นี้แต่ต้องอาศัยความมั่นใจเป็นพื้นฐานจริงๆทีเด็ดยังเป็นเกมนี้เราใช้บอลครอสจากริมเส้นได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่างหากทั้ง 2 ประตูที่เราทำได้มาจากการโยนบอลด้านข้างที่ยอดเยี่ยมทั้งหมด เอกนิษฐ์ตักด้วยน้ำหนักเหมาะเหม็งให้ธีรศิลป์โหม่ง และนิติพงษ์โยนลึกไปเสาไกลให้เอกนิษฐ์ยิงโล่งๆกล้าครองบอล กล้าเลี้ยงกินตัว ให้แล้วไป ไปแล้วให้ มีสมาธิ ตั้งสติในทุกๆ การเล่นทั้งรุกและรับ เราจึงได้เห็นบางช่วงของเกมที่เราครองบอลเหนือกว่าในระดับ 60 กว่าเปอร์เซนต์และกดไม่ให้ยูเออีพาบอลขึ้นมาสู่พื้นที่เข้าทำได้เลยการเปลี่ยนตัวของนิชิโนะก็ยังละเอียดยิบ บริหารเวลาได้อย่างร้ายกาจ