bclub.com: คุณภาพในแนวรุกและความเด็ดขาดของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ทำให้ อาร์เซนอล ตุนความได้เปรียบตั้งแต่ครึ่งแรกกับสกอร์ 2-0เกมทำท่าจะเป็นของ ไอ้ปืนใหญ่ ในช่วงเวลาที่เหลือแต่พวกเขากลับช็อตไปดื้อๆ ซึ่งความไม่แน่นอนของแนวรับ เดอะกันเนอร์ส ก็ส่งผลเสียหายถึง 2 ประตูที่พวกเขาเสียให้กับ วัตฟอร์ด ในครึ่งหลังจากความผิดพลาดของตัวเองล้วนๆเมซุต เออซิล ออกสตาร์ทให้กับ อูไน เอเมรี เป็นนัดแรกของฤดูกาลนี้ในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรุกคอยผ่านบอลชี้เป็นชี้ตายให้กับเพื่อนร่วมทีมโดยมี ดานี เซบาญอส ถอยลงไปยืนต่ำกว่าจอมทัพชาว เยอรมัน
เออซิล กลายเป็นศูนย์กลางในการขึ้นเกมรุกของ ไอ้ปืนใหญ่ โดยมีทั้ง เอนสลีย์ เมตแลนด์-ไนลส์ กับ เซอัด โคลาซินาช คอยเติมเกมรุกที่ริมเส้นเป็นทางเลือกในการผ่านบอลของมิดฟิลด์หมายเลข 10 รายนี้ และการประสานงานระหว่างเจ้าตัวกับ เมตแลนด์-ไนลส์ ก็เป็นผลอันนำมาซึ่งประตู 2-0 ของทีมปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง เหมา 2 ประตูให้กับ เดอะกันเนอร์ส ตั้งแต่ครึ่งแรกจากการจบสกอร์ที่เด็ดขาดของเจ้าตัวเมื่อมีโอกาสโดยศูนย์หน้าทีมชาติ กาบอง รายนี้ยังทำสถิติซัลโวให้กับทีมใน พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เดบิวต์เมื่อกุมภาพันธ์ 2018 ไปแล้ว 37 ประตู เป็นรองเพียงแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (39 ประตู) เท่านั้น
จำนวน 31 ครั้งคือตัวเลขที่ วัตฟอร์ด ได้โอกาสยิงประตูใส่ อาร์เซนอล ในเกมนี้ (ตรงกรอบ 10 ครั้ง) คิดเป็นจำนวนโอกาสที่คู่แข่งของ ไอ้ปืนใหญ่ ทำได้มากที่สุดภายใน 1 เกมนับตั้งแต่ที่ ออปต้า มีการเก็บสถิติในฤดูกาล 2003/04 เป็นต้นมาตัวเลข 96 ครั้งคือลูกยิงที่แนวรับของ เดอะกันเนอร์ส ต้องรับมือในฤดูกาลนี้หลังผ่าน 5 เกมใน พรีเมียร์ลีก นับว่าเป็นจำนวนที่มากกว่าทีมใดๆ ใน 5 ลีกเมเจอร์ของทวีปยุโร14 ครั้งเป็นจำนวนที่ ไอ้ปืนใหญ่ เล่นผิดพลาดกันเองจนเป็นสาเหตุทำให้เสียประตูเมื่อนับรวมต่อเนื่องตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา มากที่สุดเหนือกว่าทีมใดๆ ใน พรีเมียร์ลีก
อาร์เซนอล เสียประตูจากลูกจุดโทษลูกที่ 10 เข้าไปแล้วหากนับรวมตั้งแต่เมื่อฤดูกาลก่อนซึ่งมีเพียง ไบรท์ตัน เท่านั้นที่เสียประตูในลักษณะดังกล่าวเท่ากับ ไอ้ปืนใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นประตูจากจุดโทษครั้งที่ 3 ติดต่อกันในซีซันนี้