Bclub99.com : พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โซนบนตาราง : แม้ฤดูกาลนี้มีบางเกมที่หืดจับและต้องลุ้นเสียวยันวินาทีสุดท้าย แต่ ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทัพของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ กลับนำโด่งเป็นจ่าฝูงชนิดที่โกยไป 24 คะแนนเต็ม จากการลงเตะ 8 นัด ทิ้งห่างแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งรั้งอันดับสอง ถึง 8 แต้ม โดย “เรือใบสีฟ้า” ตอนนี้กำลังมีปัญหาเรื่องเกมรับอย่างชัดเจน หลังจากที่ เอมเมอริก ลาป๊อร์กต์ เซนเตอร์แบ็กตัวหลัก จำเป็นต้องพักแข้งยาวหลายเดือน เพราะปัญหาบาดเจ็บที่หัวเข่าส่วนทีมใหญ่ๆ อย่าง อาร์เซน่อล และ เชลซี ก็เกาะอยู่ในกลุ่มห้าอันดับแรก โดย “ไอ้ปืนใหญ่” ฟอร์มอาจจะมีขึ้นๆ ลงๆ บ้าง แต่พวกเขาไม่แพ้ใครมา 5 นัดติดแล้ว (ชนะ 2 เสมอ 3) จนตอนนี้ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ แค่แต้มเดียวเท่านั้น ส่วน “สิงห์บลูส์” ของกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด แม้ซีซั่นนี้ต้องพึ่งพาก๊วนนักเตะดาวรุ่ง แต่ดูดีมีอนาคตเลยทีเดียว โดยเฉพาะเกมรุกนั้นไม่มีปัญหาเลย (กดไปแล้ว 18 ประตู มากสุดอันดับสาม ตามหลัง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้) แค่ปรับจูนเกมรับให้ดีขึ้นเท่านั้น และตอนนี้พวกเขารั้งอันดับ 5 มี 14 คะแนนเท่ากับ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งรั้งที่ 4 ด้วยผลต่างประตูได้-เสียที่ดีกว่า
สามอันดับสุดท้ายตอนนี้ประกอบไปด้วย วัตฟอร์ด (20), นอริช ซิตี้ (19) และ เอฟเวอร์ตัน (18) โดย “แตนอาละวาด” รั้งอันดับบ๊วยชนิดที่ยังไม่ชนะใครเลย มีแค่ 3 คะแนนเท่านั้น ส่วน “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” ทีมน้องใหม่ที่ออกสตาร์ตได้น่าสนใจ แต่ตอนนี้พวกเขากลับคว้าชัยได้แค่นัดเดียว จาก 6 เกมหลังสุด (แพ้ 5) และเพิ่งมีแค่ 6 คะแนน ด้าน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ถือว่าน่าผิดหวังอย่างแรง เพราะมีการเสริมทัพดีมากในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้กลับเพิ่งจะมีแค่ 7 คะแนน แถมแพ้ 5 จาก 6 เกมหลังสุด (ชนะ 1) ทำเอาเก้าอี้กุนซือของ มาร์โก ซิลวา ร้อนระอุเลยทีเดียว ยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จมอยู่ที่อันดับ 12 มีแค่ 9 คะแนน จาก 8 นัด ถือว่าน่าผิดหวังในแง่ของความยิ่งใหญ่ของสโมสร แต่ในสายตาของแฟนบอลคงไม่ได้เกินคาดอะไรมาก เมื่อพิจารณาดูจากขุมกำลังนักเตะที่มีอยู่ในขณะนี้ รวมถึงกึ๋นของกุนซืออย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และอีกทีมที่ค่อนข้างน่าผิดหวังคือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งตอนนี้อยู่ที่อันดับ 9 มี 11 คะแนน และระยะหลังมานี้ถือว่าผลงานกำลังเป๋ เพราะ 6 เกมหลังสุด แพ้ไปถึง 3 เกม แต่ด้วยช่วงห่างของคะแนนที่เบียดกันมาก ชัยชนะแค่นัดเดียวสามารถส่งพวกเขากระโดดขึ้นไปอยู่ที่ 4 ได้เลย
อาจจะออกสตาร์ตช่วงต้นซีซั่นกันไม่ค่อยดี แต่สุดท้ายตอนนี้สามยักษ์ใหญ่ของลีกอย่าง เรอัล มาดริด (18 แต้ม), บาร์เซโลน่า (16 แต้ม) และ แอตเลติโก มาดริด (15 แต้ม) ก็กลับมาเข้าแถวลุ้นแชมป์อยู่ในกลุ่มสามอันดับแรกตามเดิม หลังจากที่ผ่านพ้นไปแล้ว 8 เกม โดยมีทีมน้องใหม่อย่าง กรานาด้า (14 แต้ม) ทำเซอร์ไพรส์ขึ้นมาอยู่ที่สี่ แถมมีช่วงหนึ่งขึ้นไปรั้งจ่าฝูงด้วย ขณะที่ เซบีย่า (12 แต้ม) ฟอร์มดีมากในช่วงต้น แต่ตอนนี้ตกมาอยู่ที่ห้า หลังจากที่แพ้ 3 จาก 4 เกมหลังสุด เลกาเนส รั้งบ๊วยอยู่ในขณะนี้ และเพิ่งจะมีแค่ 2 คะแนนเท่านั้น โดยยังไม่ชนะใครเลย จากการลงเตะ 8 นัด ขณะที่ เรอัล มายอร์ก้า กับ เอสปันญ่อล ต่างอยู่ในโซนตกชั้นที่อันดับ 18 และ 19 ตามลำดับ โดยเฉพาะกับ “เจ้านกแก้ว” นั้น ถือว่าน่าผิดหวังอย่างแรง เพราะแพ้ 4 จาก 6 เกมหลังสุด (ชนะ 1 เสมอ 1) จนล่าสุดมีการปลดกุนซือออกจากตำแหน่งเรียบร้อยอาจไม่มีทีมที่ทำผลงานน่าผิดหวัง หรือแย่กว่าที่คิดแบบชัดเจน แต่ เรอัล เบติส น่าจะทำได้ดีกว่าอยู่ที่อันดับ 15 เมื่อพิจารณาดูถึงขุมกำลัง แถม 5 เกมหลังสุด เก็บชัยชนะได้แค่หนเดียวเท่านั้น (เสมอ 3 แพ้ 1)