bclub99.com : ทุกขวบปี นิตยสารทางการเงินชื่อดังของโลก อย่าง Forbes จะจัดลำดับ นักกีฬาที่มีรายได้สูงสุด ในแต่ละปี ภาพอันดับที่เราเห็นจนชินตา คือนักกีฬาจากประเทศพัฒนา ยึดอันดับหัวแถว อย่างหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็น ไทเกอร์ วูดส์, โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์, เลบรอน เจมส์, คริสเตียโน โรนัลโด้ หรือ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ กระนั้น มีชายคนหนึ่ง จากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เคยประกาศศักดา คว้าตำแหน่งนักกีฬาที่ร่ำรวย มากที่สุด เป็นอันดับที่ 2 ของโลกมาแล้ว ชายคนนั้น คือ แมนนี ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ จากเด็กในครอบครัวยากจน เขาก้าวขึ้นสู่ยอดมหาเศรษฐีของวงการมวย เป็นทั้งดาราภาพยนตร์ นักร้อง พรีเซ็นเตอร์หลากหลายสินค้า มีบ้านอยู่ที่ ลอส แอนเจิลลิส, แคลิฟอร์เนีย ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่นักกีฬาจากประเทศยังไม่พัฒนา จะก้าวข้ามผ่านกำแพง ความเหลื่อมล้ำในโลกกีฬา สร้างชื่อ สร้างฐานะ ให้กับตัวเอง ยืนเทียบเท่ากับนักกีฬาจากประเทศพัฒนาแล้ว Main Stand ชวน สร้อย มั่งมี คอลัมนิสต์สายมวยชื่อดังมาคุยถึงเรื่องราวของ “เดอะ แพ็คแมน” สิ่งใดบ้างที่เราสามารถเรียนรู้จากผู้ชายคนนี้ เพื่อใช้เป็นแบบอย่างกับการเดินบนเส้นทางการเป็นนักกีฬา ให้ประสบความสำเร็จ แบบแมนนี ปาเกียว ขึ้นชื่อว่านักกีฬา ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า ผลงานในสนามแข่งขัน ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ ชื่อเสียง, เงินทอง และมูลค่าในตัวเอง หากนักกีฬาสามารถทำผลงานได้ดี
สำหรับแมนนี ปาเกียว ผลงานในการชก เป็นที่ประจักษ์ของแฟนมวยอย่างรวดเร็ว เขาเริ่มต้น 11 ไฟต์แรกด้วยชัยชนะรวดในบ้านเกิด ก่อนจะพบกับความพ่ายแพ้ในครั้งแรก ในไฟต์ที่ 12 ถึงจะไม่ได้ถือครองสถิติไร้พ่าย เหมือนคู่ปรับร่วมยุคอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวธเทอร์ แต่หากดูจากผลงานตั้งแต่เริ่มชกในปี 1995 ถึง 2011 ปาเกียวแพ้แค่ 3 ครั้ง และกวาดชัยชนะไปถึง 54 ครั้ง ในช่วงยุคทองของ “เดอะ แพคแมน” ระหว่างปี 2006-2011 ปาเกียว เคยถือสถิติไร้พ่าย ติดต่อกันยาวนานถึง 15 ไฟต์ ครองเข็มขัดแชมป์โลกถึง 4 รุ่น ในช่วงเวลานั้น ทั้ง ซุปเปอร์เฟเธอร์เวท (ไม่เกิน 59 กิโลกรัม), ไลท์เวท (ไม่เกิน 61.2 กิโลกรัม), เวลเธอร์เวท (ไม่เกิน 66.7 กิโลกรัม) และซุปเปอร์ เวลเธอร์เวท (ไม่เกิน 69.9 กิโลกรัม) ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม ทำให้ในปี 2012 นิตยสาร Forbes จัดให้ปาเกียว เป็นนักกีฬาที่มีรายได้ เป็นอันดับที่ 2 ของโลก ด้วยจำนวนเงิน 62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ชนะนักกีฬาระดับแถวหน้า ในวงการอื่นหลายคน ไม่ว่าจะเป็นไทเกอร์ วูดส์ เจ้าของแชมป์ในปี 2011, เลบรอน เจมส์ นักบาสฯ มูลค่าอันดับหนึ่ง รวมไปถึงสองพี่น้องตระกูลแมนนิง อย่างเพย์ตันและอีไล ผู้เล่นที่รับค่าจ้างระดับแถวหน้า ของลีกอเมริกันฟุตบอล NFL ปาเกียวมักให้สัมภาษณ์ เผยถึงเคล็ดลับ ความสำเร็จบนสังเวียนผ้าใบอยู่เสมอ โดยเขายกเครดิตทั้งหมด ให้กับพรแสวง และการทำงานหนักของตัวเอง
ก่อนจะขึ้นชกในแต่ละไฟต์ ปาเกียวจะเก็บตัวฝึกซ้อม ไประยะเวลา 8 สัปดาห์ ด้วยความเข้มงวด เพื่อสร้างความพร้อมให้กับร่างกาย ให้แน่ใจว่า เขาจะทำผลงานได้ดีที่สุด เมื่อขึ้นสู่สังเวียน ระเบียบวินัย ในการฝึกซ้อม บวกกับการดูแลร่างกายตัวเองตลอดเวลา ทำให้ปาเกียวยังคงยืนหยัด เป็นนักชกแถวหน้าของวงการ แม้ในวัย 40 ปี และทำให้เขายังคงอยู่ใน นักกีฬา 100 อันดับแรกของโลก ที่มีรายได้สูงสุด ในปี 2019 จากการจัดของนิตยสาร Forbes ช่วงเริ่มต้นอาชีพของปาเกียว เขาต้องจากครอบครัวและบ้านเกิด เข้าสู่กรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อโอกาสในการชกมวย ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตแบบปากกัดตีนถีบ เอาชีวิตรอดในเมืองกรุง นอกจากการเป็นนักมวย เขายังต้องรับงานอื่นไปด้วย ทั้งคนทำความสะอาด, คนสวน ไปจนถึง คนประกอบเวทีมวย ความยากลำบากในเวลานั้น ทำให้ปาเกียวสร้างชื่อในบ้านเกิด และเปิดโอกาสให้เขา ได้เดินทางไปชกมวยที่ต่างประเทศ ไม่ว่าเขาจะได้รับเชิญ ไปที่ไหน เจอกับคู่ชกเก่งแค่ไหน เขาพร้อมเดินทางไปชก โดยไม่สนว่า จะแพ้หรือชนะ นอกจากผลงานในการแข่งขัน ภาพลักษณ์ของนักกีฬา เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ ที่ช่วยหาเงินเข้ากระเป๋า ให้กับนักกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดึงดูดสปอนเซอร์ ให้มาจ้างตัวเอง ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ ขายสินค้า คือช่องทางที่สำคัญ ของการหารายได้ ในยุคที่กีฬา กลายเป็นธุรกิจเต็มตัว แบบทุกวันนี้