bbet99 – ใครๆ ก็รู้ว่า วันแรกของการลุกขึ้นมาออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นการพยายามออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ไม่ย่อท้อ ถึงขั้นเชี่ยวชาญ ยิ่งยากขึ้นไปไม่รู้เท่าไหร่ และต่อไปนี้คือเรื่องราวของคุณแม่สายสตรองคนหนึ่งของวงการบันเทิงคุณแนน – ชลิตา เฟื่องอารมย์ ที่นอกจากขยันทำงานในวงการบันเทิงแล้ว เธอยังแบ่งเวลามาดูแลสุขภาพ บากบั่นจนกลายเป็นครูสอนโยคะระดับแนวหน้าคนหนึ่งของเมืองไทย
คุณแนนได้เล่าย้อนความทรงจำสมัยเริ่มออกกำลังกายว่า เกิดจากการทำงานหนักมากเกินไป จนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เป็นภูมิแพ้ เป็นหวัดบ่อย ทำให้รู้สึกว่า ต้องหันมาดูแลตัวเองอย่างจริงจัง ประกอบกับได้มาพบกับโยคะ และหลงเสน่ห์ของมันแทบในทันที ซึ่งการได้ออกกำลังก็ช่วยทำให้อาการเหล่านี้ค่อยๆ หายไป
แม้เธอจะรักการเล่นโยคะมาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในการฝึกฝนให้ได้ต่อเนื่อง พร้อมไปกับการทำงาน
“ช่วงแรกที่ออกกำลังกาย ก็ทำๆหยุดๆ ช่วงไหนติดถ่ายละครก็หยุด บางครั้งห่างหายไปเป็นปีๆ แต่โยคะเป็นการออกกำลังกายที่ต้องฝึกฝนต่อเนื่อง ทุกอย่างต้องฝึกไปตามลำดับ 1 2 3 ถ้าห่างไป ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
ดังนั้นเวลากลับมาฝึก หลังจากหยุดไป เราต้องต่อสู้กับหลายอย่างทั้งความขี้เกียจ และความอาย เพราะเวลาเริ่มต้นใหม่ คนก็ทัก อ้าว หายไปนานเลย เริ่มใหม่อีกแล้วนะ แต่เราก็พยายามบอกตัวเองเสมอว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ได้ แค่ต้องเอาชนะตัวเอง ไม่ต้องไปชนะใคร”
คุณแนนเล่าถึงความยากลำบากในการออกกำลังกายว่า เธอต้องพยายามตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อไปฝึกทุกวัน ต้องอดทนต่อความเจ็บปวดของร่างกายจากการฝึก และอดทนรอคอยความสำเร็จในการค่อยๆ ไต่ระดับที่มาพร้อมกับความยากที่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ท้อไปเสียก่อน
“พยายามสู้ เพราะเรามีลูกช้า เลยอยากมีสุขภาพแข็งแรง อยากอยู่ดูความสำเร็จของลูกไปจนโต”
นอกจากเรื่องออกกำลังกาย คุณแนนยังต้องเอาชนะใจตัวเองในเรื่องอื่นๆ อีกด้วย เช่น การเปลี่ยนนิสัยในการกิน พยายามกินผักผลไม้แทนขนม งดเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม งดการนอนดึก รักษาสมดุลชีวิตระหว่างการทำงาน การพักผ่อน และการดูแลครอบครัว
“ทุกอย่างอยู่ที่ใจเราเอง ขอเพียงใจเราเข้มแข็งพอ แต่ถ้าแพ้ใจตัวเอง เราก็จะแพ้ทุกอย่าง เชื่อเถอะ ทุกคนมีแรงขับบางอย่างภายใน อยู่ที่ว่า จะหยิบขึ้นมาใช้หรือเปล่า” คุณแนนฝากแง่คิดถึงคนที่รู้สึกท้อต่อความพ่ายแพ้ในการลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อชีวิตที่ดี