bclub99.com : สำหรับวงการบาสเกตบอลนั้น เป็นที่ยอมรับกันโดยดุษฎีว่า NBA ของประเทศสหรัฐอเมริกา คือลีกบาสเกตบอลอาชีพที่ดีที่สุดของโลก จึงไม่แปลกที่ความใฝ่ฝันของนักแม่นห่วงแทบทุกคนจะเป็นการ “ได้เล่น NBA สักครั้งในชีวิต” และทำให้พวกเขาพยายามงัดฟอร์มสุดฝีมือเพื่อไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้แน่นอน นักบาสเกตบอลที่เล่นในลีกนี้ ต้องเก่งกาจ เปี่ยมด้วยทักษะ มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวง ถึงจะอยู่รอดในลีกอันโหดหินนี้ได้ แต่หากจะบอกว่าผู้เล่น NBA นั้นเล่นบาสเก่งอย่างเดียว ก็คงจะไม่ถูกต้องนัก เพราะว่าหลายต่อหลายคนนั้นมีความสามารถนอกสนามอันเหลือเชื่อมากมาย ว่าแต่เรื่องราวนอกสนามของพวกเขานั้นเป็นอย่างไร และสามารถต่อยอดความสามารถนั้นไปได้ไกลสักเพียงไหน? นี่คือตัวอย่างบางส่วนที่จะทำให้คุณเห็นว่า ความเป็นอัจฉริยะของสตาร์ NBA ไม่ได้สิ้นสุดแค่สนามเท่านั้น
เริ่มกันที่ แดน ดิคเคา ผู้เล่นตําแหน่งการ์ดจอมพเนจรที่เคยเล่นใน NBA มาถึง 7 ทีม แต่ช่วงเวลาที่แฟนบาสคุ้นเคย น่าจะเป็นตอนโชว์ฟอร์มเด่นให้กับ นิว ออร์ลีนส์ ฮอร์เน็ตส์ (เพลิแกนส์ ในปัจจุบัน) กับผลงานเฉลี่ย 13.2 แต้มกับอีก 5.2 แอสซิสต์ ซึ่งหลายคนคงไม่เชื่อว่า เจ้าตัวมีอีกมุมซ่อนอนู่ในตัว กับความเป็นนักศิลปะที่มีมาตั้งแต่สมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยกอนซากาแล้ว ในเวลาว่างหลังจากที่ไม่ได้มีการซ้อมบาสเกตบอล สิ่งที่เขาทําคือ การจดจ่ออยู่กับแฟชั่น และความฝันของเขาที่เคยบอกไว้คือ “อยากเปิดร้านทําผม” ซึ่งสะท้อนออกมาผ่านทรงผมของเจ้าตัวที่จงใจทำให้มันดูหยิกๆ หยอยๆ แต่เทแม้ความสามารถทางกีฬาที่เขามีจะโดดเด่นไม่แพ้เรื่องศิลปะ จนถูกดราฟท์เข้ามาอยู่ใน NBA เมื่อปี 2002 เขาก็ยังไม่ทิ้งความฝันในการเปิดร้านตัดผมแต่อย่างใด เพราะทุกๆ ครั้งที่ไปแข่งไม่ว่าที่ไหน เจ้าตัวมักจะหาเวลาไปดูทําเล หรือศึกษาทุกอย่างเกี่ยวกับศาสตร์ด้านนี้ และเมื่อเขาเลิกเล่นบาสเกตบอลในปี 2010 เจ้าตัวก็เก็บสะสมเงินได้หลายล้านดอลลาร์ และสานฝันตัวเอง
ด้วยการซื้อแฟรนไชส์ร้านทำผมชื่อ The Barbers ที่สำคัญคือ เจ้าตัวยอมรับแบบติดตลกด้วยว่า หากไม่ได้เล่นใน NBA ดูท่าการหาเงินทุนมาทำฝันนี้คงเป็นไปได้ยากยิ่ง
“ร้านตัดผมของผม ผมใส่งานศิลปะต่างๆ ลงไปด้วย อย่างแกลลอรี่ ภาพบุคคลต่างๆ และมันไปได้ดีมาก จนผมตั้งใจที่จะเปิดร้านเพิ่ม ทําให้ผมไปเรียนทางธุรกิจเพิ่มเติม ในร้านของผมมีโซดากับข้าวโพดคั่วฟรีให้กับคนที่มาใช้บริการด้วยนะ” แดนกล่าวถึงร้านตัดผมในฝันของตนเอง ซึ่งในตอนนี้ เจ้าตัวก็มีร้านตัดผมถึง 2 สาขา ที่เมืองสโปเคน รัฐวอชิงตัน อันเป็นที่ตั้งของ ม.กอนซากา นั่นเอง เนื่องจากเมืองดีทรอยท์เป็นเมืองอุตสาหกรรมรถยนต์ขนาดใหญ่ จนได้รับการขนานนามว่า “Motor City”และมีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ชิ้นส่วนรถยนต์ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ รวมถึงโรงงานประกอบรถยนต์ นั่นทําให้วินนี่เกิดไอเดีย และอยากที่จะสานฝันตัวเอง ในช่วงที่เล่นให้กับพิสตันส์ เขาจึงไปทำความรู้จักผู้ประกอบการ และนักธุรกิจต่างๆ จนเกิดไอเดียที่กระตุ้นความฝันของเขามากมาย ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “ผมต้องการที่จะอยู่ในโลกของธุรกิจ และแน่นอนว่ามันต้องไม่ใช่เล็กๆ แต่เป็นระดับโลก”