bbet99 – ช่วงนี้หลายเสียงชื่นชม เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นจำนวนมากเนื่องจากพวกเขาสามารถยืนหยัดอยู่ในท็อปโฟร์ของพรีเมียร์ลีกได้แบบเกินหน้าเกินตาทีมใหญ่หลายๆทีม ทัพจิ้งจอกมีเกมรุกที่ดุดันจนหลายทีมต้องอิจฉา แต่เกมรับก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาบินสูงอยู่เหมือนกัน ซึ่งมีนักเตะอยู่คนหนึ่งที่คอยปิดทองหลังพระให้กับทีมอยู่ตลอดในตำแหน่งกองกลางตัวรับนั่นก็คือ วิลฟรีด เอ็นดิดี้
เบรนดอน รอดเจอร์ส เข้ามาปลุกทัพจิ้งจอกให้กลับมาสุดยอดใกล้เคียงกับตอนที่พวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2015/16 ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 11 นัดพวกเขาอยู่อันดับที่ 3 หลังจากเก็บชัยชนะ 7 จาก 11 เกม พลาดท่าพ่ายแพ้แค่ ลิเวอร์พูล และแมนฯยูไนเต็ด
มีเพียงแค่ แมนฯซิตี้ (34 ประตู) ทีมเดียวเท่านั้นที่ยิงประตูได้มากกว่า เลสเตอร์ (27 ประตู) นอกจากนี้ “เดอะ ฟ็อกซ์” ยังมีสุดยอดเกมที่พวกเขาบุกถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน 9-0 จนเป็นสถิติการชนะทีมเยือนที่สกอร์ขาดลอยมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
หลายคนมักจะชื่นชมในเกมรุกของพวกเขาแต่ก็มีผู้ที่ปิดทองหลังพระและเป็นส่วนสำคัญในการพา เลสเตอร์ กลับมาบินสูงอีกครั้ง นั่นก็คือมิดฟิลด์ตัวรับอย่าง วิลฟรีด เอ็นดิดี้
กองกลางชาวไนจีเรียต้องแบกรับความกดดันหลังเข้ามาเป็นตัวแทนของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ย้ายไปร่วมทัพ เชลซี ในปี 2016 ซึ่งเขาทำให้มันเป็นเรื่องง่ายเหลือเกินทั้งที่เจ้าตัวก็มีเรื่องนอกสนามอย่างการเรียนบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัย เดอ มงฟอร์ต ควบคู่กันไปด้วย
นับตั้งแต่เขาออกสตาร์ทเกมแรกในพรีเมียร์ด้วยการพ่ายแพ้ต่อ เชลซี 3-0 เมื่อ 14 มกราคม ปี 2017 หลังจากนั้นเขาพลาดลงสนามแค่ 7 เกมจาก 105 เกมเท่านั้น ผ่านกุนซือมาทั้ง เคลาดิโอ รานิเอรี่, เคร็ก เช็คสเปียร์, โคล้ด ปูแอล และเบรนดอน รอดเจอร์ส
ทั้ง 4 กุนซือไว้วางใจ เอ็นดิดี้ เขาโชว์ฟอร์มน่าประทับใจทั้งที่เพิ่งจะอายุ 22 ปีเท่านั้นเอง นับตั้งแต่เริ่มพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2016/17 ยังไม่มีนักเตะคนไหนในลีกที่เข้าสกัดบอลได้มากกว่าเขาแล้ว (402 ครั้ง) แถมมากกว่าอันดับสองอย่าง อิดริสซ่า กาน่า เกย์ อยู่ 7 ครั้งด้วยกัน ซึ่งอย่าลืมว่าเขาเข้ามาร่วมทัพในช่วงกลางฤดูกาลหรือในเดือนมกราคมปี 2017
ขณะเจ้าพ่อปิดทองหลังพระอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ของ เชลซี เข้าสกัดบอล 323 ครั้งจาก 109 นัด ซึ่งช่วงหลังมิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสถูกปรับบทบาทให้เล่นเกมรุกมากขึ้นโดยเฉพาะในยุคของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ทำให้บทบาทการเข้าสกัดบอลน้อยลง
ในยุคของ รอดเจอร์ส เจ้าตัวก็ยังคงฟอร์มอันยอดเยี่ยมนี้ไว้ อย่างในเกมล่าสุดกับ คริสตัล พาเลซ เขาได้รับเสียงชื่นชมจาก มาร์ติน คีโอว์น ตำนานปราการหลัง อาร์เซน่อล
“พาเลซ ถอยลงไปตั้งรับลึกนั่นทำให้ เลสเตอร์ เล่นเกมบุกในสไตล์ปกติของตัวเองค่อนข้างยาก แต่ เดอะ ฟ็อกซ์ ก็ยังมีเกมรับที่ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน”
“เหตุผลที่เป็นอย่างนั้นเป็นเพราะว่าฟูลแบ็กของพวกเขาอย่าง เบน ชิลเวลล์ และริคาร์โด เปเรยร่า เติมเกมบุกค่อนข้างน้อยในช่วงแรกเนื่องจากต้องระวังนักเตะที่มีความเร็วเช่น วิลฟรีด ซาฮา แต่พวกเขาก็ยังมี เอ็นดิดี้ ที่คอยช่วยเกมรับอีกหนึ่งชั้นก่อนถึงปราการหลังทั้ง 4 คน”
“ผมชอบวิธีการเล่นของ เอ็นดิดี้ ที่คอยขยับเข้า-ออกระหว่างสองเซนเตอร์ฮาล์ฟอยู่ตลอด เขายังออกไปเล่นด้านกว้างคอนจัดการปัญหาเมื่อแบ็กทั้งสองข้างต้องการความช่วยเหลือ เรียกได้ว่าเขาไปได้ทั่วถึงมาก” “การมี เอ็นดิดี้ ทำให้คู่เซนเตอร์ระวังแค่ลูกจ่ายตัดหลังเท่านั้นเนื่องจากหากคู่แข่งพยายามเลี้ยงบอลผ่านเจาะตรงกลาง ก็มักจะมีมิดฟิลด์ตัวรับคนนี้คอยเป็นทัพหน้าให้เซนเตอร์ฮาล์ฟตลอด”
มาร์ติน คีโอว์น พูดไว้ได้ถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง ใน 10 นัดที่เขาลงเล่นฤดูกาลนี้เจ้าตัวเข้าตัดบอลได้ถึง 32 ครั้ง ซึ่งไม่ใช่แค่มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกแต่มันมากที่สุดในท็อป 5 ลีกของยุโรปอีกด้วย นอกจากนี้เขายังเข้าสกัดบอลในฤดูกาลนี้ได้มากถึง 54 ครั้งซึ่งแน่นอนว่ามันมากกว่าทุกคนใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ซึ่งตอนนี้ยังไม่ใครที่ทำได้มากกว่า 50 ครั้งเลยด้วย (อันดับสองอย่าง ฮาบิบ ไมก้า จาก เม็ตซ์ ทำได้ 49 ครั้ง)
เห็นจากสถิติแล้วแน่นอนว่าหาก รอดเจอร์ส จะพาให้ทีมทำผลงานคงเส้นคงวาแบบนี้ตลอดทั้งซีซั่นก็ต้องมีชื่อของ วิลฟรีด เอ็นดีดี้ คอยช่วยทีมในทุกๆนัด