รู้จักกับ หลุยส์ กัมโปส แมวมองเทพที่อาสาช่วย แมนฯ ยูไนเต็ด

Bclub99.com : นับตั้งแต่ที่แสดงเจตนารมณ์ว่าต้องการแต่งตั้งผู้อำนวยการฟุตบอลเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรมันก็กินเวลามานานพอตัวแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ยังไม่ได้เอาใครมารับงานนั้นจริงๆ สักที จนทำให้โดนหลายคนตำหนิว่าทำไมมันถึงล่าช้าขนาดนี้ ทั้งนี้ คนที่ตกเป็นข่าวกับเก้าอี้ตัวดังกล่าว (ที่ยังไม่มีอยู่จริง) ของทัพ “ปีศาจแดง” ก็มีหลายคน อย่างเช่น เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ อดีตผู้รักษาประตูฝีมือดี, ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังคนดัง และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ อดีตมิดฟิลด์ชาวสกอตต์ เป็นต้น โดยคนที่ถูกมองว่ามีดีกรีดีที่สุดคือ ฟาน เดอร์ ซาร์ เพราะตอนนี้เขาเป็นประธานบริหารของ อาแจ็กซ์ และบริหารทีมได้ดีในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ไม่นานมานี้ หลุยส์ กัมโปส ที่ปรึกษาด้านแมวมองของ ลีลล์ สโมสรในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส เสนอตัวว่าพร้อมที่จะรับงานดังกล่าว โดยมั่นใจว่าความรู้ที่สั่งสมมาโดยตลอดของเขาจะสามารถช่วยทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับไปเป็นทีมที่ดีได้ ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จักถึงเขาคร่าวๆ กัน กัมโปส เป็นชาวโปรตุกีสที่อายุ 55 ปีแล้ว ซึ่งเขาก็สนิทสนมกับ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือว่างงานคนดังมากพอตัวด้วย โดยงานเด่นที่สุดงานแรกของเขาคือการเป็นเจ้าหน้าที่ด้านสตาฟฟฺ์ของ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2012 และตอนนั้น มูรินโญ่ ก็กุมบังเหียน “ราชันชุดขาว” อยู่เหมือนกัน

งานหลักๆ ในตอนนั้นของ กัมโปส คือการตามดูฟอร์มของนักเตะที่ มูรินโญ่ ต้องการได้มาเสริมทัพ แต่เขาก็ได้รับมอบหมายให้คอยตามดูฟอร์มของคู่แข่งทีมต่างๆ ด้วย เพื่อดูว่าจุดแข็งกับจุดอ่อนของทีมเหล่านั้นคืออะไร น่าเสียดายที่ กัมโปส อยู่กับทีมได้ไม่นาน เพราะหลังจบฤดูกาล 2012-13 มันเกิดความเปลี่ยนแปลงที่ เรอัล จากการที่ทีมดังของถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว แยกทางกับ มูรินโญ่ แต่เจ้าตัวก็ไม่ต้องตกงานเป็นเวลานาน เพราะเขาได้เข้าทำงานกับ อาแอส โมนาโก ในปี 2013 ซึ่งเขาก็ช่วยสร้างทีมได้เป็นอย่างดีก่อนจะมาร่วมงานกับ ลีลล์ เมื่อปี 2016แน่นอนว่าพูดมาถึงขนาดนี้แล้วหลายคนก็สงสัยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผลงานของ กัมโปส ดีแค่ไหน ถึงอาสาจะมาเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลคนแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งถ้ามองย้อนถึงผลงานที่ผ่านมาของเขาแล้วล่ะก็ มันก็ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวทำได้ดีมากๆ ในด้านการเสาะหาแข้งฝีเท้าเก่ง แล้วเดินเรื่องให้ทีมที่เขาทำงานให้ในตอนนั้นคว้าตัวไปร่วมทัพนอกจากนักเตะหลายคนที่ กัมโปส แนะนำให้ทีมของเขาในตอนนั้นๆ คว้าตัวไปร่วมทีมจะเล่นได้ดีจนกลายเป็นกำลังหลักของทีมได้แล้วนั้น แข้งหลายคนยังถูกขายออกไปในราคาที่สูงกว่าตอนซื้อมาเยอะพอตัวด้วย จนทำให้ทีมที่เขาทำงานให้ในตอนนั้นทำกำไรได้บานเบอะ ยกตัวอย่างเช่น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

สุดท้ายแล้วสายตาของ กัมโปส ก็แม่นยำ ในฤดูกาล 2015-16 ซึ่งเป็นซีซั่นแรกของ เลอมาร์ กับทีมนั้น เขาทำได้ 5 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่นในทุกรายการ 34 นัด ก่อนจะระเบิดฟอร์มโหดในซีซั่น 2016-17 ด้วยการทำไปถึง 14 ประตู กับอีก 18 แอสซิสต์ จากการเล่น 55 นัดในทุกรายการ ตามด้วย 3 ประตู กับอีก 10 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 38 นัดในทุกรายการของซีซั่น 2017-18 ก่อนที่เขาจะได้ย้ายไปอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด ในปี 2018 ด้วยค่าตัวสูงระยับ ถึงแม้จะทำได้เพียง 3 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 39 นัดในทุกรายการกับ อองเช่ร์ แต่ กัมโปส เห็นแววเด่นของ เปเป้ ตั้งแต่ตอนนั้น และดึงเขามาอยู่กับทีมในช่วงซัมเมอร์ ปี 2017 ซึ่งแค่ซีซั่นแรกกับทีมเขาก็ทำไป 14 ลูก กับ 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 36 นัดในทุกรายการ พอถึงฤดูกาล 2018-19 ดาวเตะชาวไอวอรี่ โคสต์ ก็ระเบิดฟอร์มโหดด้วยการทำไป 23 ประตู กับอีก 12 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 41 นัดในทุกรายการ จนในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาก็ได้ย้ายไปซบ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัวสูงสุดขีด ถึงแม้ตอนนี้แฟนบอล อาร์เซน่อล จะมองว่ามันเป็นการซื้อที่ยังไม่คุ้มเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ ลีลล์ และ กัมโปส ต้องสนใจ ถึงแม้ว่าตอนที่ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ โอลิมปิก ลียง ได้ในปี 2013 นั้น มาร์กซิยาล จะทำประตูในลีกให้ทีมไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว แต่ กัมโปส ก็มั่นใจว่าแข้งรายนี้มีฝีเท้าดีพอ จนโน้มน้าวใจให้ โมนาโก ดึงเขามาร่วมทีมให้ได้ นักเตะที่ทำได้ 1 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ จากการเล่นกับ ก็อง 26 นัดในทุกรายการ ประจำฤดูกาล 2014-15 อาจจะไม่ใช่คนที่หลายคนให้ความสนใจแต่อย่างใด ซึ่งมันก็ถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะผลงานดังกล่าวไม่ได้ถือว่ายอดเยี่ยมมากนัก ถึงกระนั้น กัมโปส ก็ยังโน้มน้าวให้ โมนาโก ดึงเขาไปร่วมทัพอยู่ดี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *