Bclub99.com : สำหรับตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องขยับตัวเพื่อทำอะไรซักอย่างในการสร้างทีมกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยสิ่งแรกที่ “ผีแดง” จำเป็นต้องทำก็คือการปล่อยผู้เล่นที่ไม่มีความจำเป็นกับทีมออกไป เพื่อเปิดพื้นที่ให้ทีมสามารถเซ็นสัญญานักเตะใหม่ที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของพวกเขามาร่วมทัพนักเตะ “ผีแดง” ชุดนี้หลายคนเป็นแข้งระดับโลก แต่นักเตะแบบนั้นก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพราะพวกเขาเคยมีประสบการณ์มาแล้วยกตัวอย่าง ฮวน เซบาสเตียน เวรอน, อังเคล ดิ มาเรีย หรือ ราดาเมล ฟัลเกา เป็นต้น ที่ไปไม่สุดกับแมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลานี้ แมนฯ ยูฯ จำเป็นต้องมีการถ่ายเลือดเสียออกไปจากทีมให้เร็วที่สุดหากพวกเขาอยากจะฟื้นสภาพกลับมาสู่การเป็นทีมที่มีลุ้นแชมป์เหมือนสมัยยุคที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โดยเฉพาะ 5 นักเตะนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ “เร้ด เดวิลส์” ต้องรีบปล่อยก่อนฤดูกาลใหม่ เพื่อจะได้นำเงินไปยกเครื่องทีมเมื่อจบฤดูกาล 2019/20 มาร์กอส โรโฮ นักเตะมักมีปัญหาบาดเจ็บทำให้เขาขาดโอกาสลงสนาม จากนั้นเมื่อกลับมาลงเล่นก็ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลยทำให้เจ้าตัวไม่ถูกเลือกแม้กระทั่งนั่งอยู่ที่ซุ้มม้านั่งสำรอง โดยเกมที่ โรโฮ ลงเล่นส่วนใหญ่เป็นแมตช์กับทีมสำรอง จริงๆ แล้วหากมองแบบไม่อคติความสามารถของเขาควรจะได้เป็นนักเตะตัวจริงให้กับทีมไหนก็ได้มาร์กอส โรโฮ ได้ลงเล่นแค่เกมเดียวให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นแมตช์ที่ “ปีศาจแดง” แพ้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-1 ซึ่งเขาได้ลงเล่นในช่วงเกือบ 10 นาทีสุดท้าย โดยตอนนี้ต้องยอมรับแล้วว่า ดาวเตะเลือดอาร์เจนไตน์ ไม่มีอนาคตอีกแล้วนับตั้งแต่ที่เป็นแข้งสำคัญในยุค หลุยส์ ฟาน กัล
อย่างไรก็ตามพื้นที่เกมรับเป็นสิ่งสำคัญที่ แมนฯ ยูไนเต็ดต้องการเสริมทัพอย่างมากในเดือนมกราคม หรือซัมเมอร์ปีหน้า และเพื่อให้ทีมมีโอกาสซื้อนักเตะในตำแหน่งนี้มาร่วมทีม พวกเขาจำเป็นต้องปล่อย โรโฮ ออกไป และมีความเป็นไปได้ว่า “ปีศาจแดง” จะขายให้กับทีมไหนก็ได้ที่พร้อมจ่ายค่าตัว 18 ล้านปอนด์ (ราว 684 ล้านบาท) นอกจากนี้การปล่อย โรโฮ ออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยังช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ลดภาระค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าเหนื่อยให้กับ ดาวเตะดีกรีทีมชาติอาร์เจนตินา ด้วย นอกจากนี้การปล่อย โรโฮ ออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยังช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ลดภาระค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าเหนื่อยให้กับ ดาวเตะดีกรีทีมชาติอาร์เจนตินา ด้วยเนมานย่า มาติชสมัยอยู่กับ เชลซี ไม่มีใครปฏิเสธว่า เนมานย่า มาติช อยู่ในช่วงพีคสุดๆ ในการเล่นฟุตบอลของเขา โดยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” และดูเหมือนว่าเป็นหัวใจในแดนกลางของสโมสร นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมควักกระเป๋า 40 ล้านปอนด์ (ราว 1,520 ล้านบาท) ช่วงซัมเมอร์ปี 2017ในช่วงต้นฤดูกาลแรก ดาวเตะเลือดเซอร์เบีย โชว์ฟอร์มได้ดีกับการสวมเสื้อ “เร้ด เดวิลส์” และทำให้ สาวก “เร้ด อาร์มี่” ยิ้มกริ่มว่าได้ของดีมาช่วยเรียกความยิ่งใหญ่คืนกลับมา แต่หลังจากนั้นผลงานของเขาก็ค่อยๆ สาละวันเตี้ยลงโดยเฉพาะในซีซั่นปัจจุบัน ตอนนี้แฟนบอล “ผีแดง” เริ่มผิดหวังอย่างมากที่เห็น มาติช ขาดความกระตือรือร้นทุกครั้งที่ลงเล่น เกมล่าสุดที่นักเตะได้ลงเล่นก็คือแมตช์แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-2 และนับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นแข้งยางอะไหล่ หากมองจากเม็ดเงินค่าเหนื่อยที่นักเตะได้รับ แมนฯ ยูฯ คงกำลังพิจารณาขายเขาออกไปเพื่อลดภาระของสโมสร
ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ มาติช สมควรได้ในสิ่งที่เขาได้รับไปตลอดจนครบสัญญาหากเป็นเพียงแค่ตัวสำรองแบบนี้ และ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหาร อาจจะคิดในแบบเดียวกัน แม้ว่า มาติช จะอายุ 31 ปีแล้วก็ตาม แต่ฝีเท้าของเขาอาจจะพอหาทีมใหม่ได้ เพียงแต่ติดเรื่องค่าเหนื่อยค่อนข้างสูงเท่านั้นอเล็กซิส ซานเชตอนที่ อเล็กซิส ซานเชซ ย้ายจาก อาร์เซน่อล มาอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยแฟนบอลคาดหวังว่าจะเห็นฟอร์มสุดยอดของ “ชายน้อย” เหมือนที่เล่นให้กับ “ไอ้ปืนใหญ่” แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรเมื่อได้เห็นความจริงในทุกๆ สัปดาห์ที่เขาอยู่กับทีมว่า สิ่งที่ฝันก็แค่ฝันไม่มีทางเป็นจริง ! ฤดูกาลนี้ อดีตสตาร์ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า มีโอกาสได้พิสูจน์ศักยภาพของตัวเองด้วยการถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน และเจ้าตัวก็ค่อยๆ โชว์ฟอร์มชั้นยอดเมื่อลงเล่นเกมลีก 3 แมตช์และยิงได้ 1 ประตูให้กับทัพ “เนรัซซูรี่” เห็นได้ชัดแล้วว่า ซานเชซ น่าจะเหมาะกับสไตล์การเล่นในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มากกว่าเกมที่เร็วป่านจรวดในพรีเมียร์ลีก บางทีนักเตะอาจจะแฮปปี้กับการอยู่เล่นให้ “งูใหญ่” แบบถาวร และนี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่ แมนฯ ยูฯ จะขายเขาออกไปกระนั้นตอนนี้แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเจอข่าวร้ายเพราะ ซานเชซ บาดเจ็บข้อเท้าซ้ายจากเกมที่ทีมชาติชิลี เสมอ โคลอมเบีย 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งอาจต้องพักยาวถึงสิ้นปีเลยทีเดียว …..แบบนี้ค่าตัวตกฮวบเลยนะเนี่ย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ความเป็นป๋าด้วยการควักกระเป๋าจำนวน 50 ล้านปอนด์ (ราว 1,900 ล้านบาท) เพื่อเซ็นสัญญากับ เฟร็ด จาก ชัคตาร์ โดเน็ทส์ค เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว แต่ ดาวเตะชาวบราซิเลียน ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้สมกับค่าตัวที่ “ปีศาจแดง” จ่ายให้เขาได้เลย นักเตะลงเล่น 4 เกมในฤดูกาลนี้ และไม่สามารถยิงประตูหรือแอสซิสต์ได้แม้แต่ครั้งเดียว จะว่าไปแล้ว เฟร็ด เป็นหนึ่งในนักเตะหลายๆ คนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ผลงานช่างแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับจำนวนเงินค่าตัว และถ้า “น้าเอ็ด” อยากที่จะปรับปรุงขุมกำลังใหม่ และกลับมาสู่รากฐานที่แข็งแกร่ง ดาวเตะเลือดแซมบ้า คงจะเป็นหนึ่งในนักเตะคนแรกๆ ที่โดนขายทิ้ง