bclub99.com : แฟนบอลหลายคนของ บาร์เซโลน่า กำลังเฝ้าลุ้นอย่างใจจดใจจ่อว่าทีมรักของพวกเขาจะสามารถทำภารกิจดึง เนย์มาร์ กองหน้าชาวบราซิเลียนกลับมาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้หรือไม่ หลังจากที่ “อาซูลกราน่า” ตกเป็นข่าวกับ เนย์มาร์ อย่างหนักจนแทบจะไม่เว้นวันทั้งนี้ กระแสข่าวล่าสุดมันทำท่าว่ายอดทีมแห่งถิ่น คัมป์ นู จะสมหวังในการล่าลายเซ็นของ เนย์มาร์ หลังจากที่ ฆาเบียร์ บอร์ดาส หนึ่งในผู้บริหารที่ลงทุนเดินทางไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเจรจาถึงดีลนี้นั้น บอกเองว่ามันใกล้ที่จะได้บทสรุปสักที อย่างไรก็ตาม บางคนก็มองว่าที่ผ่านมา บาร์เซโลน่า เสียเวลากับการเสริมทัพ เนย์มาร์ มากเกินไป ทั้งที่จริงๆ แล้วมันมีตำแหน่งหนึ่งของพวกเขาที่น่าจะจำเป็นต้องทำการเสริมทัพมากกว่า นั่นคือ “เซนเตอร์แบ็ก”
แน่นอน เคราร์ด ปิเก้ คือกองหลังที่มีชื่อชั้นระดับต้นๆ ของโลกลูกหนัง เขาช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จมากมายก่ายกอง อย่างเช่นการได้แชมป์ลีก 8 สมัย, แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ครั้ง และแชมป์ โกปา เดล เรย์ 6 หน เป็นต้น แถมยังเป็นยอดนักเตะที่สู้เพื่อทีมแบบถวายชีวิต เพราะเป็นคนเมืองบาร์เซโลน่ามาแต่กำเนิดถึงกระนั้น มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพักหลัก ปิเก้ เริ่มมีอาการฟอร์มหลุดให้เห็นบ่อยขึ้น ซึ่งมันถือเป็นเรื่องปกติเมื่อพิจารณาถึงประเด็นที่ว่าเขาอายุ 32 ปีเข้าไปแล้ว และควรจะมีคู่หูที่พอจะฝากผีฝากไข้ได้มากกว่านี้ ปัจจุบันนอกจาก ปิเก้ แล้วนั้น บาร์เซโลน่า ยังมีเซนเตอร์แบ็กอาชีพอีกเพียง 3 คน ได้แก่ ซามูแอล อุมติตี้, เกลม็องต์ ลองเล่ต์ และ ฌอง แคลร์ โตดิโบ ซึ่งถ้าให้ยอมรับกันตามตรงก็ต้องบอกว่าทั้ง 3 คนที่ว่ายังไม่มีใครเข้าข่ายที่จะเป็นคู่หูที่พอไว้เนื้อเชื่อใจของ ปิเก้ ได้เลย ลองเล่ต์ ถูกดึงมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน ด้วยค่าตัวในเบื้องต้นที่เชื่อกันว่าอยู่ที่ 35 ล้านยูโร (ประมาณ 1,190 ล้านบาท) แต่ผลงานของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก ขณะที่ อุมติตี้ ที่เคยเป็นตัวความหวังในแดนหลังก็ฟอร์มหลุดไปเลยหลังจากได้รับบาดเจ็บตรงหัวเข่าจนทำให้เคยต้องพักเป็นเวลานาน ด้าน โตดิโบ ไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นเพียงดาวรุ่งวัย 19 ปีที่มาอยู่กับทีมเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาเท่านั้น
เกมรับที่ไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควรของ บาร์เซโลน่า สะท้อนออกมาผ่านทางผลงานของพวกเขา ฤดูกาลที่แล้วถึงแม้ บาร์เซโลน่า จะคว้าแชมป์ลีกไปครองได้ แต่พวกเขาก็เสียประตูในลีกไป 36 ประตู และมันทำให้เป็นซีซั่นที่ 2 จาก 5 ฤดูกาลหลังสุดที่พวกเขาเสียประตูในลีก 30 ลูกขึ้นไป เกมรับที่ย่ำแย่แบบนั้นยังส่งผลให้ บาร์เซโลน่า ไปไม่ถึงฝั่งฝันทั้งใน โกปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย โดยเฉพาะในศึกชิงถ้วย “บิ๊กเอียร์” ที่โดน ลิเวอร์พูล รัวใส่ถึง 4 ลูกในรอบรองชนะเลิศ นัดสอง จนทำให้ทีมต้องตกรอบจากการแพ้ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-4 ทั้งที่นัดแรกทีมของกุนซือ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ชนะไปก่อน 3-0 นอกจากนี้ ถ้าย้อนไปในรอบแบ่งกลุ่มของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลก่อน บาร์เซโลน่า ก็เสียประตูไป 4 เกมจากทั้งหมด 6 นัดด้วย