Bclub99.com : วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคมนี้ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตะกันเพียงแค่คู่เดียว แต่ก็เป็นคู่ที่หลายคนตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เพราะมันคือเกม “แดงเดือด” ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล แน่นอนว่าฟอร์มโดยรวมของทั้งสองทีมต่างกันแบบฟ้ากับเหว หลังจากที่เจ้าถิ่นอย่าง “ปีศาจแดง” กำลังเข้าขั้นโคม่าด้วยการเก็บได้เพียง 9 คะแนน จากการลงเล่น 8 นัด แต่ “หงส์แดง” มาเยือนในสภาพที่คึกสุดขีด ด้วยการชนะรวดทั้ง 8 เกม และนำโด่งเป็นจ่าฝูงด้วยการมีคะแนนมากกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 8 แต้ม แต่มันก็ยังถือเป็นเกมที่น่าสนใจมากๆ อยู่ดี ทั้งนี้ ถ้าเกมนี้เป็นโปรแกรมที่เตะกันต่อจากสัปดาห์ก่อนแล้วล่ะก็ มันก็คงไม่มีปัจจัยอะไรที่จะส่งผลกับฟอร์มการเล่นมากนัก และสภาพร่างกายของหลายคนก็คงยังพร้อมทำศึกใหญ่ แต่เกมในวันอาทิตย์นี้เป็นเกมที่เตะกันหลังโปรแกรมเกมทีมชาติ นั่นหมายความว่าสภาพความฟิตและความเหนื่อยล้าจากการเดินทางอาจจะส่งผลเสียกับนักเตะได้เหมือนกัน โดยทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ต่างก็มีนักเตะเดินทางไปรับใช้ชาติบ้านเกิดกันหลายคน และวันนี้เราก็จะมาดูกันว่านักเตะของแต่ละทีมเดินทางเยอะแค่ไหน และเล่นไปมากเท่าไหร่ โดยรวมแล้วในโปรแกรมทีมชาติครั้งล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะเดินทางไปเล่นทีมชาตจิทั้งชุดเล็กและชุดใหญ่รวมกัน 9 คน ประกอบด้วย วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, มาร์คัส แรชฟอร์ด, มาร์กอส โรโฮ, แดเนี่ยล เจมส์, ดาบิด เด เคอา, อังเคล โกเมส และ ทาฮิธ ชอง
ในกลุ่มดังกล่าวมีเพียง แม็กไกวร์ กับ เจมส์ ที่ลงเล่นแบบเต็มเกมทั้ง 2 นัด ส่วนอีก 2 กำลังสำคัญของพวกเขาอย่าง ลินเดอเลิฟ กับ แม็คโทมิเนย์ ได้ลงเล่นไปเพียง 90 นาทีเท่านั้น ขณะที่ แรชฟอร์ด ได้วิ่งในสนามเป็นเวลารวม 93 นาทีจากการลงเล่นทั้ง 2 นัด ทำให้เรื่องสภาพความเหนื่อยล้าจากการลงเล่นไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ โดยถ้านับรวมทุกคนแล้วนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ลงเล่นเกมทีมชาติไปรวมแล้ว 913 นาที ถ้าจะมีอะไรที่เป็นข่าวร้ายกับพวกเขาก็คงจะเป็นการที่ ดาบิด เด เคอา ได้รับบาดเจ็บตรงต้นขาจากตอนเล่นให้ทีมชาติสเปนจนต้องอดลงเล่นในวันอาทิตย์นี้ ส่วนรายของ เจมส์ ต้องรอดูว่าจะลงเล่นไหวรึเปล่า หลังโดนกระแทกเข้าที่ศีรษะจากตอนเล่นให้ เวลส์ทั้งนี้ ในเรื่องเกี่ยวกับระยะทางของการเดินทางไปรับใช้ทีมชาติและการกลับมารายงานตัวกับต้นสังกัดนั้น บรรดานักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เดินทางเป็นระยะทางรวมกัน 22,463 ไมล์ โดยคนที่ต้องเดินทางมากที่สุดคือ ลินเดอเลิฟ ที่ระยะทาง 3,964 ไมล์ ตามมาด้วย แม็คโทมิเนย์ ที่ 3,365 ไมล์ ลูกทีมของ คล็อปป์ เดินทางไปรับใช้ชาติทั้งหมด 11 คน มากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เพียงแค่ 2 ราย แถม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกคนเก่งของพวกเขาก็ไม่ได้เดินทางไปเล่นให้อียิปต์ในโปรแกรมเกมทีมชาติหนล่าสุดด้วย เพราะได้รับอนุญาตให้พัก
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ดูเพียงผิวเผินแล้วมันจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่บรรดานักเตะ ลิเวอร์พูล ก็ลงเล่นเกมทีมชาติไปร่วมถึงกัน 1,121 นาที มากกว่าของ แมนฯ ยูไนเต็ด 208 นาที แถมยังมีถึง 5 คนที่ลงเล่นแบบเต็มเกมทั้ง 2 นัด ประกอบด้วย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ เดยัน ลอฟเรน ต่อให้จะตัด ลอฟเรน ซึ่งเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวเลือกลำดับท้ายๆ ออกไป แต่มันก็ยังมีขุนพลตัวหลักของ ลิเวอร์พูล อีกถึง 4 คนที่ลงเล่นให้บ้านเกิดครบ 180 นาที ยิ่งไปกว่านั้น เหล่านักเตะ ลิเวอร์พูล ยังเดินทางในช่วงโปรแกรมเกมทีมชาติเป็นระยะทางรวมกันถึง 66,553 ไมล์ หรือก็คือมากกว่าของ แมนฯ ยูไนเต็ด 3 เท่าเลยทีเดียว โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัวเลขด้านดังกล่าวสูงปรี๊ดมาจากการที่ ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ฟาบินโญ่ เดินทางเป็นระยะทางคนละ 13,678 ไมล์ จากการที่ทีมชาติเซเนกัลของ มาเน่ และทีมชาติบราซิลของ ฟีร์มีโน่ กับ ฟาบินโญ่ ต้องไปเล่นไกลถึงประเทศสิงคโปร์นั่นเองข่าวร้ายจากโปรแกรมเกมทีมชาติของ แมนฯ ยูไนเต็ด คือการที่ เด เคอา เจ็บหนักจนเล่นต่อไม่ไหว กับการที่ต้องรอลุ้นว่า เจมส์ จะเล่นไหวรึเปล่า แต่ถ้าด้านความล้าแล้วนั้น ลิเวอร์พูล ก็น่าจะได้รับผลกระทบมากกว่า จากการที่แข้งของพวกเขาทั้งเดินทางไกลและเล่นเยอะ โดยเฉพาะรายของ ฟาบินโญ่, ฟีร์มีโน่ และ มาเน่ ที่ต่างก็เป็น 3 ขุนพลตัวหลักของทีม ซึ่งก็ต้องมาดูกันว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล จะจัดการกับเรื่องนี้ได้ดีแค่ไหน